เฮลโหลวันนี้เราจะมาทดลองและรีวิวสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ นาฬิกา Smart watch ที่เป็นทั้งนาฬิกาวัดความดัน และยังสามารถวัดค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)ได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย หูยแค่เกริ่นมาข้างต้นคุณภาพและคุณสมบัติก็คับแก้วกันแล้ว ติดตามรายละเอียด XFIT PRO รีวิว กันแบบเรียลเรียลเลยจ้า
XFIT PRO นาฬิกาวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ(EKG)-วัดความดัน อัจฉริยะ รุ่นนี้เหมาะกับผู้มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง หรือผู้มีความเสี่ยงของการทำงานของหัวใจที่ไม่ปกติ สามารถวัดความดันโลหิต, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจเรียลไทม์, วัดการนอนหลับ, วัดระยะทาง การนับก้าว, วัดการเผาผลาญแคลอรี่, โหมดออกกำลังกาย 3 ชนิดคือ วิ่ง ปั่นจักรยาน และฟิตเนส (เป็นตัวเดียวในไทยที่สามารถวัดได้ทั้งความดันโลหิตและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ) แถมยังกันน้ำอีกด้วยนะจ๊ะ IP67 กันน้ำได้ลึกสูงสุด 1 เมตร นานสุด 30 นาที
ข้อห้ามและข้อควรระวัง
1.ไม่แนะนำให้ใส่ว่ายน้ำ
2. กรุณาชาร์จแบตครั้งแรกอย่างน้อย 2 ชั่วโมง อย่าใช้จนแบตหมดก่อน เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพ battery
คุณสมบัติขนาดนี้เหมือนผลิตขึ้นมาเพื่อแม่ของเราโดยเฉพาะ นี่แหละสิ่งที่ตามหา เนื่องจากที่บ้านเรามีแม่ที่เพิ่งผ่าตัดบายพาสหัวใจ และก็มีโรคประจำตัวคือความดันสูง และเบาหวาน เอิ้กส์ๆ แม่กลัวไม่คุ้ม เหมามาหมดทุกสิ่งอิอิ เราเลยจำเป็นต้องมอนิเตอร์ ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ และตรวจค่า EKG ค่อนข้างสม่ำเสมอ กิจวัตรประจำวันในแต่ละวัน วันละ 3 เวลาคือการวัดและบันทึกข้อมูลความดันโลหิต เพื่อให้คุณหมอประเมินการรักษาในครั้งต่อไปที่มีนัดกับทางโรงพยาบาล นอกจากจะประหยัดเวลาหลาย ๆ ขั้นตอนในชีวิต ยังช่วยให้เราสามารถยับยั้งการเกิดเหตุไม่คาดคิดสำหรับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงด้านนี้โดยเฉพาะ ขอบคุณผู้ผลิตเจ้า Smart watch XFit Pro ขึ้นมา คือซาบซึ้งน้ำตาไหลพรากกกก คือมันดีจริง ๆ
มาเริ่มต้นการใช้งาน XFIT PRO กันเลยดีกว่านะคะ เม้ามอย หอยสังข์มาเยอะละ
เริ่มแรก ดาวน์โหลดแอพ Me Care รองรับได้ทั้ง IOS และ Androids (Android4.3 ขึ้นไป หรือ IOS8.0 ขึ้นไป)
ง่าย ๆ แค่พิมพ์คำว่า Me care ใน App store หรือ Google Play เท่านั้นเองค่ะ
ตรงส่วนนี้เราเลือกเปิดใช้งานหมดแล้ว ใช้ทั้งทีก็ต้องใช้กันแบบเต็มฟังชั่นกันไปเลยนะคะ อิอิ
มาดูการทำงานในฟังชั่นอื่น ๆ กันบ้างนะคะ เริ่มจากหน้า Dashboard
เริ่มที่ฟังชั่นแรก Running
เป็นการวิ่งโดยใช้ GPS ประมวลผลการวิ่งและการเคลื่อนที่ของเราแบบเรียลไทม์
ไปดูการตั้งค่า Setting กันค่ะ
User Info
Connected การเชื่อมต่อ MeCare กับอุปกรณ์มือถือ
Notifications เลือกเปิดสัญญาณเตือนต่าง ๆ
Sedentary reminder การแจ้งเตือนให้ขยับร่างกายเมื่อนั่งนานเกินไป
Alarm Clock การตั้งค่านาฬิกาปลุก
Real time HR การตั้งค่าวัดอัตราการเต้นของหัวใจตามเวลาจริง
Anti-lost setting การป้องกันการสูญหาย
Dangerous HR Warning การแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจเกินค่าที่กำหนดไว้
Wirst brightness ตั้งค่าความสว่าง
Wearing position ตั้งค่าการใส่สายรัดซ้ายหรือขวา
Screen intensity ความเข้มของหน้าจอ
Undisturbed ตั้งค่าห้ามรบกวน
Sport target เป้าหมายในการออกกำลังกาย
Sleep target ตั้งค่าการนอนหลับในแต่ละวัน อย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง
Unit setting การตั้งค่าหน่วยการนับและเวลา
Language การตั้งค่าภาษา
เรามาดูคำสั่งต่าง ๆ บนสายรัดเพื่อสุขภาพ XFIT PRO กันค่ะ การเปิดใช้งานก็ไม่ยาก เพียงใช้นิ้วโป้งแตะไปที่ขีดด้านล่างหน้าจอ 1 ครั้ง
วิธีการชาร์จแบตเตอร์รี่ของสายรัดเพื่อสุขภาพ XFIT PRO
หงายตัวเรือนของนาฬิกา จะเห็นสัญลักษณ์ USB
จับสายตรงที่จะถอดให้แน่น ค่อย ๆ โยก และดึงสายนาฬิกา จะเห็นตัว USB อยู่ด้านใน
เราสามารถชาร์จได้โดยตรงกับ ช่อง USB ของคอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ้ค หรือ ที่เสียบชาร์จไฟสำหรับมือถือได้ทันที
***สำหรับการใช้ในครั้งแรกควรชาร์จทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง
วิธีการใส่สายรัดเพื่อสุขภาพ XFIT PRO
การใส่สายรัดสุขภาพที่ถูกต้อง ต้องใส่ให้ห่างจากข้อมือประมาณ 1.5 ถึง 2 ซม. เพื่อให้การทำงานของเซ็นเซอร์สามารถปล่อยแสงสีเขียว เพื่อตรวจวัดค่าความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้อง และ แม่นยำที่สุด
มาดูการใช้งานเวลาอยู่นอกบ้านกันบ้างค่ะ วันนี้เราจะไปเดินช้อปปิ้งกันที่ห้างสรรพสินค้า หลังจากผ่าตัดคุณหมอแนะนำให้เดินวันละ 10-15 นาที ฟังชั่นในการทำงานของ XFIT PRO สามารถนับก้าวการเดินได้ แต่เราจะมาดัดแปลงฟังชั่นของเค้านิดหน่อยให้เหมาะกับเวลาการเดินแต่ละครั้งของแม่ค่ะ ดังนั้นเราไปที่ Alarm clock ณ ตอนนี้เป็นเวลา 18.00น. เราตั้งนาฬิกาปลุกไปที่ 18.10น. เมื่อสัญญาณเตือนดังที่สายรัดเพื่อสุขภาพ XFIT PRO ก็จะทำการหยุดเดินค่ะ แล้วพักสักเล็กน้อย
จากนั้นตอนเย็นเราไปออกกำลังกายกันต่อที่บึงหนองบอน นอกจากแม่จะออกกำลังกายด้วยแล้ว เราก็ยังสามารถพาน้องหมาสุดที่รักของเราไปออกกำลังกายได้ด้วยค่ะ
มาถึงไฮไลต์ค่ะ ECG / EKG การตรวจวัดค่าคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตามปกติแล้ว เราจะต้องไปทำการวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่คลีนิค หรือที่ โรงพยาบาลเท่านั้น ตื่นตั้งแต่ตีสี่ค่ะคุณขรา😢 เพื่อไปรอคิวพบคุณหมอก่อน 9 โมงเช้า เพลียค่ะเพลีย แต่…….ตอนนี้เราสามารถวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ด้วย XFIT PRO แล้วนะคะ ประหยัดเวลา ประหยัดเงินในกระเป๋า ฮ่าๆๆ
วิธีการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- ขั้นตอนแรกให้เราเปิดที่หน้า Dashboard เลือกที่ ไอคอนรูปหัวใจสีเขียวเพื่อเริ่มการวัดค่าหัวใจ อย่าลืมต่อสัญญาบลูทูธระหว่างแอพพลิเคชั่นกับสายรัดเพื่อสุขภาพ XFIT PRO นะคะ
- วางนิ้วชี้และนิ้วกลางที่ด้านข้างของสายรัด นิ้วชี้ให้สัมผัสกับเซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านข้าง ทางด้านขวา ทำไมเราถึงจำเป็นต้องให้นิ้วชี้สัมผัสกับเซ็นเซอร์ เนื่องจากการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG หรือ EKG คือการตรวจการทำงานไฟฟ้าของหัวใจ โดยบันทึกการเปลี่ยนแปลงของศักดาไฟฟ้าที่ผิวของร่างกายนั่นเองค่ะ จากนั้นให้เรากดปุ่ม Start test และ play เพื่อเริ่มทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจค่ะ ในกรณีที่ระหว่างทำการตรวจวัดไฟฟ้าคลื่นหัวใจและเกิดการทำงานที่ผิดพลาดให้เราทำการ เช็ดที่เซ็นเซอร์ด้านข้างให้สะอาด จากนั้นให้สำรวจอีกครั้งว่า สายรัดเพื่อสุขภาพ XFIT PRO ยังคงทำการเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธอยู่หรือไม่ ถ้าไม่ให้เชื่อมต่อสัญญาณอีกครั้ง และเริ่มต้นการทำงานใหม่ทั้งหมดอีกครั้งค่ะ
- จากนั้นให้รอจนกระบวนการต่าง ๆ สำเร็จ การแสดงผลจะส่งกลับไปที่แอพพลิเคชั่น MeCare ในมือถือ
จากผลของการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ผลคือ Normal Sinus Rhythm คือจังหวะการเต้นของหัวใจที่ปกติ และยังแสดงผลของความดันโลหิตไว้ในคราวเดียวกันด้วย ให้ดูตรงค่า BP: ของแม่เราอยู่ที่ 141/94 อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูง มาดูคำอธิบายคร่าว ๆ ด้านล่างกันเลยค่ะ ข้อมูลอ้างอิงจากวิกิพีเดีย
ค่าความดัน systolic
เมื่อหัวใจเต้น จะมีการบีบตัวและดันเลือดออกมาจากหัวใจไปตามเส้นเลือดแดงทั่วร่างกาย แรงดันนี้ทำให้เกิดความดันในเส้นเลือดแดง ค่าความดันที่วัดได้นี้คือความความดัน systolic
- ค่าปกติของความดัน systolic นี้ควรจะต่ำกว่า 120
- ถ้าระดับที่วัดได้คือ 120–139 แปลว่าคุณเริ่มมีความเสี่ยงที่จะเป็นความดันโลหิตสูง Prehypertension หรือเรียกอีกอย่างว่า borderline hypertension ซึ่งแปลว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจมากขึ้น
- ความดัน systolic ทีสูงกว่า 140 ถือว่าเป็นความดันโลหิตสูง
ค่าความดัน diastolic
ค่าความดัน diastolic หรือค่าความดันตัวล่าง แสดงถึงความดันในเส้นเลือดแดงในขณะที่หัวใจพักการบีบตัวแต่ละครั้ง
- ค่าปกติควรจะต่ำกว่า 80
- ค่าระหว่าง 80–89 แสดงว่าเริ่มมีความเสี่ยงที่จะเป็นความดันโลหิตสูง
- ค่าที่สูงกว่า 90 ถือว่าเป็นความดันโลหิตสูง
- ค่าความดันโลหิตตัวบนปกติไม่ควรจะเกิน120mmHg
- กรณีความดันโลหิตตัวบน 120–139mmHg แสดงถึงความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง
- กรณีความดันโลหิตตัวบน 140–159mmHg แสดงถึงภาวะความดันโลหิตสูงขั้นที่ 1
- กรณีความดันโลหิตตัวบน 160 mmHg หรือมากกว่าแสดงถึงภาวะความดันโลหิตสูงขั้นที่2
- สำหรับค่าความดันโลหิตตัวล่างไม่ควรจะเกิน 80 mmHg
- กรณีความดันโลหิตตัวล่าง 80–89 mmHg แสดงถึงความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง
- กรณีความดันโลหิตตัวล่าง 140–159mmHg แสดงถึงภาวะความดันโลหิตสูงขั้นที่ 1
- กรณีความดันโลหิตตัวล่าง 100 mmHg หรือมากกว่าแสดงถึงภาวะความดันโลหิตสูงขั้นที่2
สำหรับเราการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าใจ และการตรวจวัดค่าความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอจำเป็นมากสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจระยะเริ่มต้น หรือผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการผ่าตัดบายพาสมาใหม่ ๆ สำหรับผู้ที่ไม่มีภาวะโรคหัวใจมาก่อน ก็สามารถใช้เป็นตัวช่วยในการระมัดระวังดูแลสุขภาพ ถ้าเกิดอาการผิดปกติต่างๆ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็วค่ะ
และอีกหนึ่งฟังชั่นที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน นาฬิกา สุขภาพ XFIT PRO นั่นก็คือการบันทึกการทำงานของฟังชั่นต่าง ๆ ของ XFIT PRO ตามวันเวลาทีเราใช้งาน เราไม่จำเป็นต้องหาสมุดจดบันทึกกันอีกต่อไป แค่มีแอพพลิชั่น Mecare และ XFIT PRO Smart Watch ก็จบครบ ง่ายในขั้นตอนเดียว
ฮั่นแน่!!! ยังไม่หมดแค่นี้นะคะ นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวมามากมายแล้วข้างต้น สายรัดเพื่อสุขภาพ XFIT PRO ยังมีฟังชั่นการเตือนต่าง ๆ ทั้งการเตือนสายเรียกเข้า, เตือนข้อความจากมือถือ และข้อความจากโซเชียลได้อีกด้วย ทั้งสะดวกและความปลอดภัยในการชีวิตประจำวัน แค่ใส่สายรัดเพื่อสุขภาพ XFIT PRO แล้วเก็บมือถือไว้ในกระเป๋า เท่านี้เราก็ไม่จำเป็นต้องถือมือถือติดมืออยู่ตลอดเวลา ลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นแบบไม่ตั้งใจของผู้ใช้งาน มีสัญญาณเตือนครั้งใด ค่อยหยิบมือถือ ออกมาใช้งานก็ได้เน๊อะะะะ
สำหรับเราและแม่แล้ว เราคิดว่าสายรัดสุขภาพ XFIT PRO คือสิ่งสำคัญในชีวิต จะมีสักกี่คนที่วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจในทุก ๆ วัน ถ้าเราไม่เคยมีประสบการณ์ การที่มีผู้ป่วยโรคหัวใจอยู่ใกล้ชิดขนาดนี้ เราก็คงไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแค่ปีละครั้งเท่านั้นแหละ ถ้ารู้จัก XFIT PRO ก่อนหน้านี้สักนิดสัก 4-5 ปี เราอาจจะช่วยแม่ไม่ให้ต้องเสี่ยงกับการเข้ารับการผ่าตัดบายพาสหัวใจ ที่ถือว่าเป็นการป่วยครั้งใหญ๋ในชีวิต แต่ถึงจะผ่าตัดไปแล้ว การตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และความดันโลหิต ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ การเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ ความดันโลหิตที่ผิดปกติ มีผลต่อการทำงานของหัวใจทั้งก่อนและหลังผ่าตัด ถ้าเราคอยเฝ้าระวัง เราสามารถพาพบหมอได้อย่างทันท่วงที ถ้าเกิดอัตราการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ แต่ไม่ใช่แค่คนป่วยเท่านั้นนะคะ คนปกติทั่ว ๆ ไปก็สามารถใช้สายรัดสุขภาพ XFIT PRO ได้ค่ะ อย่างว่าแหละเนอะ การไม่มีโรค คือลาภอันประเสริฐ อย่าลืมรักสุขภาพกันนะคะ
สำหรับใครที่สนใจตอนนี้เค้ามีโปรโมชั่นนะจ๊ะ อะไรที่ว่าดีเราก็อยากมาบอกต่อ
จากปกติ 5,500บาท เหลือเพียง 3,450 บาท
จัดส่งฟรีทั่วประเทศ มีบริการเก็บเงินปลายทางฟรี
Online >> Line@ : @xfit
Sellplus Call center : 02-0263581
FB Fanpage : XFIT WATCH